ชนิดกีฬาที่เกี่ยวข้องกับการใช้ศิลปะป้องกันตัวใน “ทวีปเอเชีย” นั้นมีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายแขนง และมีมาแล้วอย่างยายนานกว่า 5,000 ปี เรียกได้ว่าเป็นพื้นฐานเป็นต้นแบบที่ทำให้เกิดการแข่งขันกีฬาทางด้านการป้องกันตัวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น มวยไทย มวยสากล เทควันโด ยูโด คาราเต้ บราซิลเลี่ยน กังฟู มวยปล้ำ  แซมโบ้ ฮับกิโด ไอคิโด้ ยูยิสสู หรือจะเป็นกีฬาที่อาศัยอาวุธอย่างเช่น อิไอโด กระบี่กระบอง เคนโด้ หรือการฟันดาบ เป็นต้น ซึ่งแต่ละชนิดกีฬาต่างก็ใช้พื้นฐานศิลปะป้องกันตัวหลัก ๆ ที่แตกต่างกันออกไป อาทิ การล็อก การเหวี่ยงทุ่ม การเตะ การต่อย การออกหมัด เป็นต้น แต่ทราบหรือไม่ว่ามีกีฬาอีกชนิดหนึ่งที่อาศัยพื้นฐานศิลปะป้องกันตัวในการต่อสู้ ที่เรียกได้ว่าแทบจะรวมเอาพื้นฐานการต่อสู้ทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกันนั้นคืออะไร บทความนี้จะไม่ปล่อยให้คุณผู้อ่านทุกท่านต้องคอยนาน ไปศึกษากันได้เลย..

ชนิดกีฬาดังกล่าวที่ว่านั้นก็คือ “Mixed Martial Art (MMA)” หรือที่เรียกกันว่า “ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบผสม” นั่นเอง หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้ก็อาจจะสงสัยกันว่าแล้วเจ้า MMA นี้มันคืออะไรกันแน่ คำตอบก็คือ MMA คือ กีฬาชนิดหนึ่งที่อาศัยการรวมเอาพื้นฐานของศิลปะการต่อสู้หลากหลายแขนงสาขาเข้าไว้ด้วยกัน เช่น ทักษะมวยไทย มวยสากล ยูโด มวยปล้ำ และอื่น ๆ ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น กติกาก็ไม่มีอะไรมา แค่คู่ต่อสู้แต่ละฝ่ายใช้วิธีการต่อสู้แบบเตะต่อย เทคนิคหลาย ๆ อย่าง เช่น การปะทะ การจับยึด ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นการป้องกันตัวแบบไหน จะยืน จะนั่ง จะนอน ขอเพียงแค่ทำอย่างไรก็ได้ให้อีกฝ่ายหนึ่งยอมแพ้ ซึ่งต้องบอกเลยว่าด้วยความที่ศาสตร์การต่อสู้นี้เป็นศาสตร์ที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากหลาย ๆ ศาสตร์การต่อสู้ นั่นจึงให้ MMA มีเสน่ห์น่าจับตามองไม่เหมือนกีฬาชนิดไหนเลย การดูกีฬาชนิดนี้เรียกได้ว่าผู้ชมแทบจะอยากเข้าไปช่วยฝ่ายที่ตนเชียร์อยู่จริง ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะมันทั้งตื่นเต้น มันทั้งน่าลุ้นเป็นอย่างมาก

ส่วนว่าเงื่อนไขที่จะทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้นั้น คืออะไรบ้าง ก็คงต้องบอกว่า ปัจจุบัน การรู้ผลแพ้ชนะกันในกีฬา MMA นั้น ดูกันที่ว่า การน็อคเอาท์ การตัดสินจากกรรมการ การยุติเกมโดยผู้ตัดสิน การยอมแพ้โดยวาจาทั้งจากตัวนักกีฬาเองหรือจากพี่เลี้ยงนักกีฬา เป็นต้น โดยในปัจจุบันเนื่องจากกีฬานี้เรียกได้ว่าเป็นชนิดกีฬาน้องใหม่ จึงยังคงอยู่ในช่วงพัฒนาการของกฎระเบียบต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันหลัก ๆ แล้วก็คือเริ่มมีการแบ่งกลุ่มผู้เข้าแข่งขันออกเป็นรุ่น ๆ ตามเกณฑ์น้ำหนักคล้ายกันกับกีฬามวย และให้ผู้เข้าแข่งขันสวมถึงมือแบบเปิดนิ้ว (Open-Fingered Gloves) เพื่อป้องกันไม่ให้มือมีอาการบาดเจ็บได้ และที่สำคัญข้อห้ามสำหรับผู้เข้าแข่งขันทั้ง 2 ฝ่าย คือ ห้ามจิ้มตา ห้ามเตะเป้าของฝ่ายตรงข้ามนั่นเอง

เป็นอย่างไรกันบ้างกับกีฬาน้องใหม่อย่าง MMA ที่คุณผู้อ่านหลาย ๆ ท่านก็อาจจะยังไม่เคยได้ยิน ได้ฟัง หรือรู้จักกันมาก่อน เป็นที่น่าจับตามองเหลือเกินว่ากีฬาชนิดนี้ในบ้านเรานั้นจะสามารถเป็นที่นิยมได้เทียบเท่ากีฬาพื้นบ้านอย่างมวยไทยของเราหรือไม่ แต่ของแบบนี้ถ้าไม่ลองเปิดใจก็อาจจะพลาดรับชมกีฬาสนุก ๆ อีกหนึ่งชนิดกีฬาก็เป็นได้

เครดิตภาพ: http://tiny.cc/iexynz